แรกสุด เขาต้องเข้าใจว่า "ความสุข" คืออะไร
ฌอง-ฌาคส์ รูสโซ
เปิดด้วย คำกล่าวของ ฌอง-ฌาคส์ รูสโซ นักปรัชญาสังคมชาวสวิส
ความสุขคือการปลดปล่อยทุกส่ิง ละทิ้งอดีต ไม่คาดหวังในอนาคต
หยุดเพื่อเริ่ม มองตัวเอง เข้าใจตัวเอง เพราะความสุขเป็นโครงสร้างสังคม
เราต่างแสวงหามัน อย่างปกปิดหรือโดยเปิดเผย และเมื่อค้นพบ
ความสุขแล้ว หล่อเลี้ยงมันและคงมัน ไว้คือความต้องการพื้นฐานของชีวิต
ซึ่งถ้าปราศจากมันแล้ว ชีวิตจะอับเฉา โง่เขลา เหงาหงอย
และไร้ความหมาย ตามความเข้าใจและการตีความ
ที่โปรยปราย ทุกอย่างชุ่มฉ่ำ ต้นไม้เขียวขจี จากเส้นทางเชียงใหม่
ปลายทางตะหานหิน ผ่านเส้นทางที่คุ้นเคย แต่ครั้งนี้ได้ต่างออกไป
จากทุกครั้งที่ผ่านมา บรรยากาศรอบๆ ที่ชุ่มฉ่ำจากเม็ดฝนที่โปรยปราย
ทำให้สิ่งแวดรอบริมข้างทางเผยชีวิตชีวาสดใสเป็นพิเศษ
หมอกลอยเอื่อยเรียบช่องเขา ใบไม้พลิ้วไหวยามต้องเม็ดฝน
ลมเย็นที่ผ่านช่องกระจก บทเพลงเนื้อหาและทำนองโดนใจ
แสงแสดยามเย็นช่วงตะวันลับขอบฟ้า ความสลัวบังเกิดเห็นจุด
ของแสงไฟประดิษฐ์ บ้างหยุดนิ่ง บ้างเคลื่อนไหวเป็นเส้นสาย
นั้นทำให้เกิดเป็นความสุขผ่านการละเลมบรรยากาศของโลก
หากมองสิ่งรอบตัวสักนิดก็จะพบว่ารายละเอียดของความสุข
แทรกแฝงตัวอยู่ในทุกสรรพสิ่ง
ขากลับในเช้าวันรุ่งขึ้น ผ่านการเดินทางโดยรถไฟ จากสถานีตะพานหิน
ไปสถานีเชียงใหม่ นั้นทำให้ตัวเองมีเวลาที่จะสังเกตุ คิด ทบทวน
เรื่องราวมากมาย ได้อ่านหนังสือจากรุ่นพี่
ที่ชื่อว่า “อิสระภาพเกิดขึ้นเมื่อคุณไม่รู้ (Freedom From The Known)"
โดย จ.กฤษณมูรติ
ได้มองธรรมชาติผ่านช่องหน้าต่างรถไฟ เห็นต้นไม้ สัตว์ คน เมือง สังคม
แล้วปล่อยใจไปกับตัวหนังสือและจินตนาการ ...
"ต้องใส่ใจอย่างเต็มที่ต่อโครงสร้างทั้งหมดของความสุขเพลิดเพลิน
มิใช้ตัดความสุขเพลิดเพลินออกไปอย่างที่พระหรือนักบวชกระทำ
แต่ต้องเป็นการมองเห็นความหมายและนัยทั้งหมดของความเพลิดเพลินนั้น
และคุณจะมีปีติสุขอย่างมากในชีวิต" จ.กฤษณมูรติ